การทำเคมีกับเส้นผมทั้งการดัดและการทำสี ล้วนส่งผลต่อโครงสร้างเส้นผม ดังนั้นการเลือกลำดับขั้นตอนที่ถูกต้องจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพ และผลลัพธ์ของเส้นผม โดยทั่วไปแล้ว ช่างผมมักแนะนำให้ ดัดผมก่อน แล้วจึงทำสีผมในวันเดียวกัน ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

1. ผลกระทบของน้ำยาดัดผมต่อสีผม

น้ำยาดัดผมมีฤทธิ์เป็นด่าง ซึ่งอาจทำปฏิกิริยากับเม็ดสีในน้ำยาทำสีผม ทำให้สีผมที่ทำใหม่ เกิดการเปลี่ยนแปลง ซีดจาง หรือเพี้ยนไปจากที่ต้องการ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณทำสีผมโทน Ash แล้วดัดผมในวันเดียวกัน สีผมอาจจะเพี้ยนเป็นโทน เขียว หรือ เหลือง ได้

2. ลดความเสียหายของเส้นผม

การดัดและการทำสีผมในวันเดียวกัน ถือเป็นการทำเคมีกับเส้นผม 2 ครั้งซ้อน ซึ่งอาจทำให้เส้นผม แห้งเสีย ขาดหลุดร่วง และ เปราะบาง ได้ง่าย การดัดผมก่อน แล้วจึงทำสีผม จะช่วยลดโอกาสที่เส้นผมจะสัมผัสกับสารเคมีมากเกินไป เปรียบเสมือนการพักเบรคให้เส้นผม ก่อนจะโดนเคมีซ้ำ

3. ผลลัพธ์ของลอนผม

น้ำยาทำสีผมบางชนิด อาจมีส่วนผสมของ แอมโมเนีย หรือ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ซึ่งอาจทำให้ลอนผมที่ดัด คลายตัวเร็ว และ ไม่คงทน การดัดผมก่อน จะช่วยให้ลอนผมอยู่ตัว และ ชัดเจน แม้จะผ่านการทำสีผมในวันเดียวกัน

ข้อยกเว้น

แม้โดยทั่วไปจะแนะนำให้ดัดผมก่อนทำสี แต่ก็มีข้อยกเว้น เช่น

• การทำสีผม แบบ high-lift หรือ bleach: หากต้องการทำสีผมสว่างมาก จำเป็นต้องฟอกสีผม ซึ่งทำให้เกล็ดผมเปิด และ สีผมหลุดง่าย การดัดผมหลังจากฟอก อาจทำให้สีผมหลุดเร็วขึ้น ดังนั้น กรณีนี้ ควรทำสีผมก่อนดัด
• สภาพเส้นผม: หากเส้นผม แห้งเสีย มาก หรือ ผ่านการทำเคมีมาหลายครั้ง ควรปรึกษาช่างผม เพื่อประเมินสภาพเส้นผม และ เลือกลำดับขั้นตอนที่เหมาะสม

คำแนะนำเพิ่มเติม

• ปรึกษาช่างผม: ช่างผม ผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยวิเคราะห์สภาพเส้นผม และ ความต้องการ เพื่อเลือกลำดับขั้นตอน และ วิธีการที่เหมาะสมที่สุด
• บำรุงเส้นผม: การบำรุงเส้นผม ก่อน และ หลัง การทำเคมี เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เส้นผมแข็งแรง และ ลดความเสียหาย
• เว้นระยะเวลา: หากเป็นไปได้ ควรเว้นระยะเวลา ระหว่าง การดัด และ การทำสีผม สัก 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้เส้นผมได้พัก

การทำเคมีกับเส้นผม ควรทำด้วยความระมัดระวัง และ เลือกวิธีที่เหมาะสมกับ สภาพเส้นผม และ ความต้องการ เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงาม และ สุขภาพผมที่ดีในระยะยาวค่ะ